(https://img2.pic.in.th/pic/_PVC_Head_Banner.jpg) (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
พิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset) ราคาถูก Digital Offset ราคาคละแบบได้ เริ่มต้นขั้นต่ำ 100 ใบ 100 บาท
พิมพ์เพลินพริ้นท์ มีบริการ Template พิมพ์นามบัตรสวยๆ ไว้ให้เลือกมากกว่า 100 แบบ
และพิมพ์นามบัตรพรีเมียม จัดส่งทั่วประเทศ ทำนามบัตรด่วน พิมพ์นามบัตรสี
การพิมพ์นามบัตรนั้นตอนแรกถูกใช้เพื่อสำหรับในการแนะนำตัวของตัวเองให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกข้างสามารถจดจำตนเองก้าวหน้าขึ้น และทำให้อีกข้างรู้โปรไฟล์ของพวกเราโดยคร่าวๆได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่และก็เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ สำหรับในการพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)แจกนั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมากในสมัยก่อนในสมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่
เพราะเหตุว่าถ้าปรารถนาจดเบอร์โทรศัพท์จำต้องใช้การเขียนลงสมุดแล้วจะต้องซักถามรายละเอียดที่ได้มาจากบุคคลนั้น ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่
สะดวกรวมทั้งทำให้เสียเวลาอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้มีการสัมมนาหรือพบปะสนทนาคนอื่นด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรก็เลยนับเป็น
สิ่งจำเป็นอย่างเสียมิได้
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยสำหรับเพื่อการชี้แนะตัวเองแล้วก็โปรไฟล์ได้มากมายหลากหลายแนวทาง แม้กระนั้นแม้ว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตรไม่ใช่แค่เพียงแค่เป็น "Name Card" แต่กลายเป็น "Business Card" ซึ่งมีความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ สำหรับในการติดต่อธุรกิจกับคนอื่นนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นสิ่งจำเป็นมากมายในขณะนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นความนิยมของญี่ปุ่นนั้นถือว่าให้พกนามบัตรติดตัวตลอดระยะเวลาแล้วก็ให้ความใส่ใจมากมาย
กว่ากระเป๋าใส่สตางค์อีกด้วย เนื่องจากว่าแม้มีการเผชิญบุคคลภายนอกจนกระทั่งมีการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรจัดว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น โดยเหตุนี้การพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดไม่ใช่แค่ในเชิงธุรกิจแต่ว่ารวมถึงคนทั่วๆไปด้วย
รูปแบบของนามบัตรนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามเป้าหมายการใช้งาน อย่างเช่น ใช้ชี้แนะเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ ฯลฯ โดยรายละเอียดข้อมูลสำหรับการพิมพ์นามบัตรจะแตกต่างออกไป โดยปกติข้อมูลรากฐานที่ควรมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหนเป็น1.ชื่อ – ชื่อสกุลของผู้ครอบครองบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางติดต่อโดยจะเป็นวิธีใดก็ได้อย่างใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายประเภทก็ได้ตามแต่สะดวก ซึ่งในปัจจุบันเว้นเสียแต่เจาะจงเบอร์โทรศัพท์ มือถือ ที่อยู่ บางครั้งอาจจะเพิ่มเติมอีกที่อยู่อีเมล
facebook LineID เสริมเติมเป็นต้น แม้กระนั้นถ้าเป็นการพิมพ์นามบัตรเพื่อธุรกิจก็ควรมีเพิ่มเติมอีกในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ แล้วก็อาจจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมทั้งการใช้อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ศัทพ์อาจจะต้องเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
วางใจฯลฯ
งานเอกสารนามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งพอสมควร ไม่สมควรบางหรืออ่อนตัวกระทั่งเกินความจำเป็น ซึ่ง
ขนาดอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีไม่เหมือนกันออกไปบ้างบางส่วนแต่ว่าไม่ควรแตกต่างจากขนาดมาตรฐานมากเท่าไรนัก นั่นคือ 3.5 x 2.125 นิ้ว เนื่องจากขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่กับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้ต้องมีความหนา
260 มึงรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตรนั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยเดี๋ยวนี้นิยมพิมพ์สองด้านโดยจะมักจะกำหนดรายละเอียดเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งแล้วก็ภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งนับว่าเหมาะสมสำหรับการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะมีคนต่างชาติรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้เกิดความงดงามนั้นมีความจำเป็นอย่างมากเพราะว่าช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ สำหรับ
ผู้ที่ไม่ทราบท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวหากได้เห็นนามบัตรที่ดูสง่าก็จะทำให้เชื่อถือว่าบริษัทท่านจะต้องดูน่าไว้วางใจตามไป
ด้วย การตกแต่งเพิ่มเติมในกับนามบัตรก็เลยเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ การเคลือบ UV ฉาบเงา เคลือบด้าน ฉาบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทอง รวมทั้งฯลฯขึ้นกับความพึงพอใจของแต่ละท่านนั่นเอง
Tags : พิมพ์นามบัตร